Wednesday, 23 September 2015

Grove - Sound Sensor Arduino


Grove - Sound Sensor

          วันนี้เราจะมาพูดถึงเจ้าตัวเซ็นเซอร์วัดเสียงกันครับ โดยตัวดังในรูปมีชื่อว่า Grove - Sound Sensor ที่เอาไว้ต่อเข้ากับ Arduino หรือคอนโทรลเลอร์อื่นๆ แล้วโค้ดเพื่อวัดระดับเสียง มันสามารถวัดระดับเสียงในสภาพแวดล้อมต่างๆได้ โดยองค์ประกอบหลักของโมดูลเป็นไมโครโฟนธรรมดาและขึ้นอยู่กับเครื่องขยายเสียง LM358 ผลที่ออกมาของโมดูลนี้เป็นอะนาล็อกและสามารถเก็บตัวอย่างได้ง่ายๆ 

(Features) ลักษณะเด่นๆของเซ็นเซอร์ตัวนี้คือ
- ง่ายต่อการใช้โมดูลเซ็นเซอร์เสียง
- output ออกมาเป็นอะนาล็อก
- ง่ายต่อการทำงานร่วมกับโมดูลลอจิกในการ input ของวงจรโกรฟ
- ใช้ 4 pin ในการต่อเข้ากับคอนโทรลเลอร์ต่างๆ

Specifications of Grove -Sound Sensor
  • Operating voltage range: 4-12V
  • Operating current (Vcc=5V): 4-8mA
  • Voltage Gain (VS=6V, f=1 kHz): 26dB
  • Microphone sensitivity (1Khz): 52-48dB
  • Microphone Impedance: 2.2KΩ
  • Microphone Frequency: 16-20Khz
  • Microphone S/N ratio: 54dB

Applications Ideas
  • Simple microphone
  • Sound detection
How to usage
for example I will used it with Arduino 
The specific steps for uploading the code:
1. Select the type of Arduino board that you are using by the path: Tools --> Board --> for example, Arduino UNO after you have open a demo. 

It may be your wrong choice of board type If there appears the below image, please re-select the Arduino board that you are using. 

2. Select the correct serial port you are using by the path: Tools --> Serial Port --> for example, COM3.
3. Upload the demo code as below show:

When there appears "Done uploading", congratulate you upload successfully.
ลองเอาไปเล่นกันได้ครับ 

Sunday, 6 September 2015

Internet of Things

Internet of Things (IoT) คือ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมอุปกรณ์และ เครื่องมือต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ตู้เย็น โทรทัศน์ และอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยเครื่องมือต่างๆ จะสามารถเชื่อมโยงและสื่อสารกันได้โดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ในอนาคต ผู้บริโภคทั่วไปจะเริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยีที่ทำให้พวกเขา สามารถควบคุมสิ่งของต่างๆ ทั้งจากในบ้าน และสำนักงานหรือจากที่ไหนก็ได้ เช่น การควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน การเปิดปิดไฟ ไปจนถึงการสั่งให้เครื่องทำกาแฟ เริ่มต้มกาแฟ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จำเป็นจะต้องถูกพัฒนาก่อนที่ IoT จะเป็นความจริงขึ้นมา เช่น ระบบตรวจจับต่างๆ (Sensors) รูปแบบการ เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ และระบบที่ฝังตัวอยู่ในคอมพิวเตอร์ แต่ขณะนี้ บริษัทใหญ่ๆ อย่าง Microsoft และ Cisco ก็หันมาให้ความสนใจกับเทคโนโลยีนี้ และในปี 2013 เทคโนโลยี “Internet of Things” จะถูกพูดถึงกันมากขึ้น และจะมีการทำวิจัยและ พัฒนาเพื่อทำให้ สามารถนำมาใช้ได้จริงมากขึ้น

10 อันดับการประยุกต์ใช้ Internet of Things

1.Smart Home
2. Wearables devices
3. Smart city 
4. Smart grid
5. Industrial internet
6. Connected car
7. connected health, Digital health
8. Smart retail 
9. Smart supply chain
10. Smart farming

cr:http://www.strategic-man.com/articles/detail/19#.VeyUK9KeDGc, 
http://www.inofthings.com/10-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-internet-thin/

Arduino uno กับ Arduino Pro Mini

Arduino Uno




คำว่า Uno เป็นภาษาอิตาลี ซึ่งแปลว่าหนึ่ง เป็นบอร์ด Arduino รุ่นแรกที่ออกมา มีขนาดประมาณ 68.6x53.4mm เป็นบอร์ดมาตรฐานที่นิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องจากเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นเรียนรู้ Arduino และมี Shields ให้เลือกใช้งานได้มากกว่าบอร์ด Arduino รุ่นอื่นๆที่ออกแบบมาเฉพาะมากกว่า มีการใช้งานง่ายเพียงเสียบสาย USB ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เลย และสมารถเปลี่ยน Microcontroller เองได้เมื่อเสีย โดยบอร์ด Arduino Uno ได้มีการพัฒนาเรื่อยมา ตั้งแต่ R2 R3 และรุ่นย่อยที่เปลี่ยนชิปไอซีเป็นแบบ SMD 

Arduino Pro Mini


บอร์ด Arduino Pro Mini เป็นบอร์ดที่แตกต่างจากบอร์ด Arduino Mini คือย้ายช่อง A4 A5 A6 A7 ออกมาภายในบอร์ด เพื่อให้บอร์ดมีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมอีก และมีให้เลือกใช้ทั้ง 5V และ 3.3V ก่อนซื้อจึงควรดูให้แน่ใจเสียก่อน บอร์ด Arduino Pro Mini ได้ใช้ไอซีเบอร์ ATmega328 เช่นเดิม แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ทำให้ไอซีดูเต็มบอร์ดมากขึ้น และในโมเดลที่ใช้แรงดันไฟ 3.3V ลดความถี่ลงเป็น 8MHz ใช้พื้นที่ Boot loader น้อยลง เหลือเพียง 500B การโปรแกรมยังคงต้องใช้โมดูล USB to UART ในการเชื่อมต่อเพื่อโปรแกรมเช่นเดิม


ตารางเปรียบเทียบข้อมูลจำเพาะของ Arduino Uno และ Arduino Pro Mini


Arduino UNO

Arduino Pro Mini
Microcontroller

ATmega328P
ATmega328
Operating Voltage

5V
3.3V or 5V (depending on model)
Input Voltage (recommended)

7-12V
3.35 -12 V (3.3V model) or 5 - 12 V (5V model)
Digital I/O Pins

14 (of which 6 provide PWM output)
14 (of which 6 provide PWM output)
Analog Input Pins

6
6
DC Current per I/O Pin

20 mA
40 mA
Flash Memory

32 KB (ATmega328P)
of which 0.5 KB used by bootloader
32 kB (of which 0.5 kB used by bootloader)
SRAM
2 KB (ATmega328P)
2 kB
EEPROM
1 KB (ATmega328P)
1 kB
Clock Speed

16 MHz
8 MHz (3.3V model) or 16 MHz (5V model)

























เปรียบเทียบข้อแตกต่างของ Arduino Uno กับ Arduino Pro Mini
 - Arduino Pro Mini มีขนาดเล็กกว่า Uno มาก
 - Arduino Pro Mini เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการบอร์ดขนาดเล็กและไม่ต้องการต่อกับ PC หรือ Notebook ผ่านทางสาย USB
Arduino Pro Mini  จะไม่มี Chip FTDI ในตัว ทำให้ไม่สามารถ Upload Sketch ได้จากการต่อ USB ไปตรงๆ ที่ตัวบอร์ดแบบ  Arduino UNO R3
 - Arduino Pro Mini ในรุ่น 3.3V จะใช้แรงดันไฟน้อยกว่า Uno
Arduino Pro Mini ราคาถูกกว่าแต่สเปคคล้ายๆกัน

สรุปได้ว่า
Arduino Pro Mini มีขนาดเล็กกว่า Arduino Uno แต่มีข้อมูลจำเพาะเกือบจะเท่ากัน และจะลำบากตอนต่อเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์นิดหน่อยตอน upload sketch ต้องต่อสาย USB to TTL converter เพิ่ม เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการใช้บอร์ดขนาดเล็กและราคาของ Arduino Pro Mini ถูกกว่า


cr: http://www.ioxhop.com